10 หูฟังบลูทูธ ราคาไม่เกิน 1000 บาท ปี 2025 เสียงดีคมชัด เชื่อมต่อง่าย

สวัสดีจ้าเพื่อนๆ ชาวแก๊งค์ไอทีสายช้อปทุกคน! วันนี้มาพบกับหัวข้อสุดปัง “10 หูฟังบลูทูธ ราคาไม่เกิน 1000 บาท ปี 2025 เสียงดีคมชัด เชื่อมต่อง่าย” ใครที่กำลังมองหาหูฟังคู่ใจ งบสบายกระเป๋า ฟังเพลงก็เพลิน คุยโทรศัพท์ก็ชัด ดูหนังก็มันส์ วันนี้เราคัดมาให้เน้นๆ แบบว่าโดนใจวัยรุ่นชาวไทยแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่อยากได้หูฟังกันน้ำไว้ใส่เต้น หรือช่วงปีใหม่ที่อยากหาของขวัญให้ตัวเองหรือเพื่อนซี้ หูฟังบลูทูธดีๆ สักอันตอบโจทย์สุดๆ แถมยังเชื่อมต่อง่าย ไม่ต้องหัวร้อนกับสายพันกันอีกต่อไป! ไปดูกันเลยว่ามีตัวไหนเด็ดบ้าง!

1. Xiaomi Redmi Buds 4 Lite

ราคา: ประมาณ 499 - 699 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

หูฟังไร้สายตัวเล็กสเปคคุ้มจาก Xiaomi ที่มาในดีไซน์คล้าย AirPods ใส่สบาย น้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4 กรัมเท่านั้น เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ว่าจะฟังเพลง ดูหนัง หรือคุยโทรศัพท์. ตัวเคสชาร์จก็เล็กกระทัดรัด พกพาง่าย. ถึงแม้จะไม่ได้มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนเทพๆ แต่คุณภาพเสียงโดยรวมถือว่าทำได้ดีเกินราคา โดยเฉพาะใครที่ชอบฟังเพลงแนวป๊อป หรือเน้นเสียงร้องใสๆ น่าจะถูกใจ. การเชื่อมต่อทำได้รวดเร็วด้วย Bluetooth 5.3 และมีโหมด Low Latency สำหรับเล่นเกมหรือดูหนัง ช่วยลดปัญหาภาพกับเสียงไม่ตรงกันได้ดีในระดับหนึ่ง. นอกจากนี้ยังมีระบบ AI Noise Cancellation สำหรับการตัดเสียงรบกวนขณะคุยโทรศัพท์ ช่วยให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดเจนขึ้น แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังบ้าง. แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และรวมกับเคสชาร์จแล้วใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว. แถมยังกันน้ำกันเหงื่อระดับ IP54 อีกด้วย ใส่ออกกำลังกายเบาๆ ได้สบายๆ.

จุดเด่น: น้ำหนักเบาใส่สบาย、ดีไซน์สวยคล้ายรุ่นดัง、เชื่อมต่อเร็ว Bluetooth 5.3、มีโหมด Low Latency、กันน้ำ IP54.

ฟังก์ชันหลัก:

1. การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3: ให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่รองรับ ลดปัญหาการดีเลย์ของเสียง ทำให้ประสบการณ์การฟังเพลงหรือดูวิดีโอราบรื่นยิ่งขึ้น.

2. โหมด Low Latency: เหมาะสำหรับคอเกมหรือคนที่ชอบดูหนังผ่านมือถือ ช่วยลดความหน่วงของเสียง ทำให้เสียงกับภาพตรงกันมากขึ้น เพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมและรับชมคอนเทนต์ต่างๆ.

3. AI Noise Cancellation สำหรับการสนทนา: ระบบตัดเสียงรบกวนด้วย AI จะช่วยกรองเสียงรอบข้างที่ไม่ต้องการออกไป ทำให้เสียงพูดคุยโทรศัพท์มีความชัดเจน ทั้งต้นสายและปลายสายได้ยินกันรู้เรื่องมากขึ้น.

4. แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน: ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องประมาณ 5 ชั่วโมง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 20 ชั่วโมง เพียงพอต่อการใช้งานตลอดทั้งวัน.

เหมาะสำหรับ: นักเรียน นักศึกษา, คนทำงาน, ผู้ที่มองหาหูฟังไร้สายราคาประหยัดสำหรับใช้งานทั่วไป, คนที่ชอบดีไซน์มินิมอลใส่สบาย.

ผู้ผลิต: Xiaomi Thailand

บทความแนะนำสินค้า: Redmi Buds 4 Lite Official Page

ข่าวสินค้า: (ไม่มีข้อมูลข่าวสารเฉพาะรุ่นนี้ แต่สามารถติดตามข่าวสารทั่วไปของ Xiaomi ได้)

รีวิวผลิตภัณฑ์: รีวิว Redmi Buds 4 Lite จากช่อง YouTube (ตัวอย่าง)

รีวิวจากผู้ใช้: Redmi Buds 4 Lite Customer Reviews on Amazon

บทความสอนใช้งาน: (โดยทั่วไปจะอยู่ในคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือค้นหาวิดีโอสอนการเชื่อมต่อบน YouTube)

2. Baseus Bowie EZ10

ราคา: ประมาณ 399 - 599 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

มาต่อกันที่ Baseus Bowie EZ10 หูฟังไร้สายดีไซน์สุดเก๋ เคสชาร์จเป็นแบบเปิดโล่งไม่มีฝาปิด แต่ไม่ต้องกลัวหล่นเพราะมีแม่เหล็กดูดหูฟังไว้แน่นหนา. วัสดุทำจากพลาสติก ABC คุณภาพดี ผิวด้านนอกเคสเป็นแบบแมทท์ ส่วนด้านในเป็นผิวมันวาว. ตัวหูฟังมีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใส่สบาย เหมาะกับการใช้งานนานๆ. ใช้ชิป Bluetooth 5.3 เชื่อมต่อรวดเร็วและเสถียร มีโหมด Low Latency สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ. เรื่องคุณภาพเสียงก็ไม่ธรรมดา ให้เสียงเบสที่หนักแน่นถูกใจสายเบส. ใครชอบฟังเพลงแนว EDM หรือ Hip-Hop น่าจะชอบเป็นพิเศษ. มีไมโครโฟนคู่ช่วยให้การสนทนาคมชัด. แบตเตอรี่ก็อึดพอตัว หูฟังใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และเคสชาร์จยังชาร์จซ้ำได้อีก รวมแล้วใช้งานได้นานถึง 20-25 ชั่วโมง. แถมยังมีระบบชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 10 นาที สามารถฟังเพลงต่อได้อีกถึง 2 ชั่วโมง.

จุดเด่น: ดีไซน์เคสเปิดโล่งไม่เหมือนใคร、ขนาดเล็กพกพาง่าย、Bluetooth 5.3、โหมด Low Latency、แบตอึดพร้อมชาร์จเร็ว.

ฟังก์ชันหลัก:

1. การออกแบบเคสชาร์จที่เป็นเอกลักษณ์: เคสชาร์จแบบเปิดไม่มีฝาปิด (Hood-less) ใช้แม่เหล็กในการยึดหูฟัง ทำให้หยิบใช้งานง่ายและดูทันสมัย.

2. Bluetooth 5.3 และโหมด Low Latency: มอบการเชื่อมต่อที่เสถียรและรวดเร็ว พร้อมโหมด Low Latency 0.06 วินาที ช่วยให้เล่นเกมหรือดูวิดีโอได้โดยไม่มีอาการดีเลย์ของเสียงกวนใจ.

3. คุณภาพเสียงเน้นเบส: ด้วยไดรเวอร์ขนาด 10 มม. ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพลงจังหวะสนุกๆ หรือต้องการความกระหึ่มในการฟังเพลง.

4. แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานและชาร์จเร็ว: หูฟังสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จจะใช้งานได้รวมประมาณ 22-25 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Baseus Rapid Charge ชาร์จเพียง 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานถึง 2 ชั่วโมง.

เหมาะสำหรับ: วัยรุ่น, คนที่ชอบดีไซน์แปลกใหม่, เกมเมอร์, คนที่ชอบฟังเพลงเบสหนัก.

ผู้ผลิต: Baseus Official Website

บทความแนะนำสินค้า: Baseus Bowie EZ10 Product Page

ข่าวสินค้า: (ไม่มีข้อมูลข่าวสารเฉพาะรุ่นนี้ แต่สามารถติดตามข่าวสารทั่วไปของ Baseus ได้)

รีวิวผลิตภัณฑ์: Baseus Bowie EZ10 Review by Techxreviews on YouTube (ตัวอย่าง)

รีวิวจากผู้ใช้: Baseus Bowie EZ10 User Reviews on Tech-Haus

บทความสอนใช้งาน: (โดยทั่วไปจะอยู่ในคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือค้นหาวิดีโอสอนการเชื่อมต่อบน YouTube)

3. SoundPeats Clear

ราคา: ประมาณ 799 - 990 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

SoundPeats Clear หูฟังไร้สายดีไซน์โปร่งใสมองเห็นวงจรด้านใน เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใครแน่นอน. ตัวหูฟังเป็นแบบ In-Ear ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียงข้างละ 4.2 กรัม ทำให้สวมใส่สบายได้ทั้งวัน. เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 สัญญาณนิ่งเสถียร ไม่ดีเลย์ง่ายๆ แถมยังมี Game Mode ช่วยลดความหน่วงของเสียง เหมาะกับการเล่นเกมสุดๆ. เรื่องคุณภาพเสียงก็ไม่น้อยหน้า ให้เสียงที่ใสเคลียร์สมชื่อ รายละเอียดเสียงชัดเจน เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว. มีไมโครโฟนคู่ พร้อมเทคโนโลยี Dual Mics ENC ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างขณะคุยโทรศัพท์ ทำให้ปลายสายได้ยินเสียงเราชัดเจน. แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 7-8 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และชาร์จผ่านเคสได้อีก รวมแล้วใช้ได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง! กันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 ใส่ออกกำลังกายหรือเจอฝนปรอยๆ ก็ยังไหว.

จุดเด่น: ดีไซน์โปร่งใสเห็นวงจร、น้ำหนักเบาใส่สบาย、Bluetooth 5.3、Game Mode、ไมค์คู่ ENC คุยชัด、แบตอึดมาก 40 ชั่วโมง.

ฟังก์ชันหลัก:

1. ดีไซน์โปร่งใส (Transparent Design): ตัวหูฟังและเคสชาร์จบางส่วนทำจากวัสดุโปร่งใส ทำให้มองเห็นชิ้นส่วนภายใน ดูทันสมัยและมีสไตล์เป็นเอกลักษณ์.

2. ไมโครโฟนคู่พร้อม ENC (Dual Mics ENC Technology): มาพร้อมไมโครโฟนคู่ที่ทำงานร่วมกับเทคโนโลยี Environmental Noise Cancellation (ENC) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้าง ทำให้การสนทนาคมชัดในทุกสถานการณ์.

3. Game Mode: โหมดพิเศษที่ช่วยลดความหน่วงของเสียง (Low Latency) ทำให้เสียงในเกมตรงกับภาพมากขึ้น เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมให้สนุกและสมจริงยิ่งขึ้น.

4. แบตเตอรี่ใช้งานยาวนาน: สามารถใช้งานหูฟังได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 7-8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ จะสามารถใช้งานได้นานรวมสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง เพียงพอสำหรับการใช้งานหลายวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อยๆ.

เหมาะสำหรับ: คนที่ชอบดีไซน์โดดเด่น, ผู้ที่ต้องการหูฟังสำหรับฟังเพลงและคุยโทรศัพท์, เกมเมอร์งบน้อย, คนที่มองหาหูฟังแบตอึด.

ผู้ผลิต: SoundPeats Official Website

บทความแนะนำสินค้า: SoundPEATS Clear True Wireless White - Mercular.com

ข่าวสินค้า: (ไม่มีข้อมูลข่าวสารเฉพาะรุ่นนี้ แต่สามารถติดตามข่าวสารทั่วไปของ SoundPeats ได้)

รีวิวผลิตภัณฑ์: รีวิว SoundPEATS Clear จากช่อง YouTube (ตัวอย่าง)

รีวิวจากผู้ใช้: Soundpeats Clear Review on Reddit (ตัวอย่าง)

บทความสอนใช้งาน: (สามารถดูได้จากคู่มือ หรือค้นหาผ่านแอป SoundPeats)

4. QPLUS TWS BT12

ราคา: ประมาณ 290 - 490 บาท (ราคาโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

หูฟังบลูทูธ QPLUS TWS BT12 เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนงบน้อยมากๆ แต่ยังอยากได้หูฟังไร้สายคุณภาพดีไว้ใช้งาน. ดีไซน์เรียบง่าย กะทัดรัด พกพาสะดวก. ให้คุณภาพเสียงที่ค่อนข้างใส ฟังสบายๆ เหมาะกับเพลงหลากหลายแนว. การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ทำได้ง่าย เพียงแค่เปิดฝาเคสหูฟังก็พร้อมเชื่อมต่อแล้ว. ตัวหูฟังสามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ และเคสยังสามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้อีก 3-4 รอบ ทำให้ใช้งานได้ยาวๆ ตลอดวัน. นอกจากนี้ยังมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำระดับ IPX4 สามารถกันเหงื่อจากการออกกำลังกายหรือละอองน้ำได้เป็นอย่างดี. แม้ว่าเสียงเบสอาจจะไม่หนักแน่นเท่ารุ่นอื่น และไม่มีระบบตัดเสียงรบกวน แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายขนาดนี้ ถือว่าคุ้มค่ามากๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม.

จุดเด่น: ราคาประหยัดมาก、เชื่อมต่อง่าย、ใช้งานได้นานพอสมควร、กันน้ำ IPX4、ดีไซน์น่ารักพกพาง่าย.

ฟังก์ชันหลัก:

1. การเชื่อมต่ออัตโนมัติเมื่อเปิดฝาเคส: เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน เพียงเปิดฝาเคสชาร์จ หูฟังจะทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่เคยจับคู่ไว้โดยอัตโนมัติ (หาก Bluetooth ของอุปกรณ์นั้นเปิดอยู่).

2. แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน (เมื่อรวมกับเคส): แม้ตัวหูฟังจะใช้งานได้ 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จ แต่เคสชาร์จสามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้อีก 3-4 ครั้ง ทำให้ระยะเวลาใช้งานรวมค่อนข้างนาน เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน.

3. มาตรฐานกันน้ำ IPX4: ช่วยป้องกันเหงื่อและละอองน้ำจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือระหว่างการออกกำลังกายเบาๆ ได้ ทำให้มั่นใจในการใช้งานมากขึ้น.

4. คุณภาพเสียงที่สมราคา: ให้เสียงที่ใส คมชัด ฟังสบาย เหมาะสำหรับการฟังเพลงทั่วไป ดูวิดีโอ หรือเล่นเกมที่ไม่ต้องการรายละเอียดเสียงสูงมากนัก ถือว่าคุ้มค่ากับราคา.

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่เริ่มต้นใช้หูฟังไร้สาย, คนที่มองหาหูฟังราคาถูกมากๆ, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน.

ผู้ผลิต: (ข้อมูลผู้ผลิต QPLUS อาจต้องตรวจสอบจากร้านค้าที่จัดจำหน่ายโดยตรง)

บทความแนะนำสินค้า: QPLUS TWS BT12 White ที่ BaNANA Online (ตัวอย่าง)

ข่าวสินค้า: (ไม่มีข้อมูลข่าวสารเฉพาะรุ่นนี้)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (อาจมีรีวิวจากผู้ใช้ในหน้าสินค้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (โดยทั่วไปจะอยู่ในคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามจากผู้ขาย)

5. TECHPRO S1

ราคา: ประมาณ 530 - 590 บาท (ราคาโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง)

TECHPRO S1 เป็นหูฟังบลูทูธแบบ In-Ear ที่มาพร้อมดีไซน์ทันสมัย สวมใส่สบาย กระชับพอดีหู ไม่หลุดง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชอบความคล่องตัว. เชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วและเสถียรด้วย Bluetooth 5.0. ใช้งานได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และตัวเคสยังสามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้อีก 2-3 รอบ. มีคุณสมบัติกันน้ำระดับ IPX4 ทำให้สามารถใส่ออกกำลังกาย กันเหงื่อได้สบายๆ. เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม หรือแม้กระทั่งใส่ออกกำลังกาย ด้วยลักษณะที่เป็น In-Ear จึงช่วยให้กระชับและลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ในระดับหนึ่ง. แม้จะไม่มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) และเสียงเบสอาจจะไม่หนักมากนักสำหรับคอเบสหนัก แต่โดยรวมถือเป็นหูฟังที่คุ้มค่าในราคานี้.

จุดเด่น: ดีไซน์ทันสมัยใส่กระชับ、Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อเสถียร、กันน้ำ IPX4、เหมาะกับการออกกำลังกาย、ราคาคุ้มค่า.

ฟังก์ชันหลัก:

1. การออกแบบ In-Ear ที่กระชับ: ตัวหูฟังถูกออกแบบมาให้สอดเข้าไปในช่องหูได้พอดี ช่วยให้การสวมใส่มีความกระชับ ไม่หลุดง่ายระหว่างทำกิจกรรมต่างๆ และยังช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้บ้าง.

2. การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0: ให้การเชื่อมต่อที่ค่อนข้างเสถียรและรวดเร็วกับอุปกรณ์ต่างๆ รองรับการใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี.

3. มาตรฐานกันน้ำ IPX4: สามารถป้องกันเหงื่อและละอองน้ำได้ ทำให้เหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกาย หรือใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นเล็กน้อย.

4. แบตเตอรี่เพียงพอต่อการใช้งาน: หูฟังใช้งานได้ 4 ชั่วโมง และเคสชาร์จสามารถชาร์จซ้ำได้อีก 2-3 รอบ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไปในแต่ละวัน.

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่มองหาหูฟัง In-Ear ราคาประหยัด, คนที่ชอบออกกำลังกาย, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน.

ผู้ผลิต: (ข้อมูลผู้ผลิต TECHPRO อาจต้องตรวจสอบจากร้านค้าที่จัดจำหน่าย เช่น BaNANA)

บทความแนะนำสินค้า: TECHPRO S1 Black ที่ BaNANA Online (ตัวอย่าง)

ข่าวสินค้า: (ไม่มีข้อมูลข่าวสารเฉพาะรุ่นนี้)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (อาจมีรีวิวจากผู้ใช้ในหน้าสินค้าของร้านค้าออนไลน์ต่างๆ)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (โดยทั่วไปจะอยู่ในคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือสอบถามจากผู้ขาย)

6. JLab Go Air Pop

ราคา: ประมาณ 990 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

JLab Go Air Pop หูฟังไร้สายไซส์เล็ก พกพาสะดวกสุดๆ มาพร้อมสีสันให้เลือกหลากหลาย ถูกใจวัยรุ่นแน่นอน. จุดเด่นคือมีสายชาร์จ USB ติดมากับตัวเคสเลย ไม่ต้องพกสายชาร์จแยกให้วุ่นวาย. ตัวหูฟังมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใส่สบาย สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเมื่อรวมกับเคสชาร์จแล้วสามารถใช้งานได้นานกว่า 32 ชั่วโมงเลยทีเดียว. มีมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ. นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งเสียงได้ถึง 3 โหมด คือ JLab Signature, Balanced และ Bass Boost ให้เลือกตามแนวเพลงที่ชอบ. การเชื่อมต่อทำได้ง่ายและรวดเร็วด้วย Bluetooth 5.1 มีไมโครโฟนในตัวสำหรับคุยโทรศัพท์ และสามารถใช้งานหูฟังแยกข้างได้อย่างอิสระ.

จุดเด่น: เคสมีสายชาร์จในตัว、ขนาดเล็กพกพาง่ายมีหลายสี、แบตอึดมาก 32+ ชั่วโมง、ปรับ EQ ได้ 3 โหมด、กันน้ำ IPX4.

ฟังก์ชันหลัก:

1. เคสชาร์จพร้อมสาย USB ในตัว: เพิ่มความสะดวกสบายในการชาร์จ ไม่ต้องพกพาสายชาร์จแยกต่างหาก สามารถเสียบชาร์จกับพอร์ต USB ได้โดยตรง.

2. แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานเป็นพิเศษ: หูฟังสามารถเล่นเพลงได้นานถึง 8 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเคสชาร์จยังสามารถชาร์จเพิ่มได้อีก รวมระยะเวลาใช้งานทั้งหมดกว่า 32 ชั่วโมง.

3. การปรับแต่ง EQ 3 โหมด: ผู้ใช้สามารถเลือกโหมดเสียงได้ 3 แบบ (JLab Signature, Balanced, Bass Boost) โดยไม่ต้องใช้แอปพลิเคชันเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะกับแนวเพลงหรือความชอบส่วนตัว.

4. การใช้งานแยกข้างอิสระ (Dual Connect): สามารถใช้งานหูฟังข้างใดข้างหนึ่งได้อย่างอิสระ หรือจะใช้งานพร้อมกันทั้งสองข้างก็ได้ เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน.

เหมาะสำหรับ: นักเรียน นักศึกษา, คนที่เดินทางบ่อย, ผู้ที่ต้องการหูฟังแบตอึดและพกพาง่าย, คนที่ชอบสีสันสดใส.

ผู้ผลิต: JLab Official Website

บทความแนะนำสินค้า: JLab Go Air Pop Product Page

ข่าวสินค้า: (สามารถติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นจาก JLab Thailand หรือตัวแทนจำหน่าย)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (ค้นหาวิดีโอรีวิว JLab Go Air Pop บน YouTube)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย เช่น Pantip)

บทความสอนใช้งาน: (ดูได้จากคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือเว็บไซต์ JLab)

7. Edifier X2s

ราคา: ประมาณ 910 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

Edifier X2s เป็นหูฟังไร้สายอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจในงบไม่เกิน 1,000 บาท. โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบหรู ขนาดกะทัดรัด สวมใส่สบาย. มาพร้อมระบบ AI Noise Cancellation ที่ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะคุยโทรศัพท์ ทำให้การสื่อสารชัดเจนยิ่งขึ้น. คุณภาพเสียงถือว่าทำได้ดี เหมาะสำหรับการฟังเพลงหลากหลายแนว และยังสามารถตั้งเวลาเปิด-ปิดหูฟังได้อีกด้วย. นอกจากนี้ยังป้องกันละอองน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP54 ทำให้สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันหรือใส่ออกกำลังกายเบาๆ ได้อย่างมั่นใจ. การเชื่อมต่อใช้ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ (ไม่ได้ระบุเวอร์ชั่นชัดเจนในแหล่งข้อมูล แต่คาดว่าเป็น 5.1 หรือสูงกว่าเพื่อรองรับ AI Noise Cancellation). แบตเตอรี่ใช้งานได้นานพอสมควรสำหรับการใช้งานทั่วไป.

จุดเด่น: ดีไซน์เรียบหรู、AI Noise Cancellation คุยชัด、ตั้งเวลาเปิดปิดได้、กันน้ำกันฝุ่น IP54.

ฟังก์ชันหลัก:

1. AI Noise Cancellation สำหรับการสนทนา: เทคโนโลยี AI ช่วยกรองเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ทำให้เสียงพูดคุยผ่านไมโครโฟนมีความชัดเจน ปลายสายได้ยินเสียงอย่างไม่มีสะดุด.

2. การตั้งเวลาเปิด-ปิด: เป็นฟังก์ชันที่อาจจะไม่ค่อยพบในหูฟังราคานี้ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตั้งเวลาให้หูฟังปิดตัวเองได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือตั้งเวลาเปิดเมื่อต้องการใช้งาน.

3. มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP54: ให้ความทนทานต่อละอองน้ำและฝุ่นละออง เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและกิจกรรมกลางแจ้งเล็กน้อย.

4. คุณภาพเสียงที่สมดุล: ให้เสียงที่เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว และการสนทนาที่ชัดเจน เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป.

เหมาะสำหรับ: คนทำงานที่ต้องใช้โทรศัพท์บ่อย, ผู้ที่มองหาหูฟังดีไซน์เรียบๆ คุณภาพเสียงดี, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน.

ผู้ผลิต: Edifier Official Website

บทความแนะนำสินค้า: (สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Edifier หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่าย)

ข่าวสินค้า: (ติดตามข่าวสารจาก Edifier Global หรือ Edifier Thailand)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (ค้นหาวิดีโอรีวิว Edifier X2s บน YouTube)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (ดูได้จากคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือเว็บไซต์ Edifier)

8. Vivan GT2

ราคา: ประมาณ 999 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

Vivan GT2 หูฟังดีไซน์มินิมอล ออกแบบมาให้ดูเรียบง่ายแต่ทันสมัย. มาพร้อมเทคโนโลยี ENC (Environmental Noise Cancellation) ช่วยลดเสียงรบกวนรอบข้างขณะสนทนา ทำให้คุยโทรศัพท์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น. จุดเด่นอีกอย่างคือมีค่าความหน่วงต่ำ (Low Latency) ทำให้เหมาะสำหรับการเล่นเกม ดูหนัง ได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด. นอกจากนี้ยังกันน้ำกันเหงื่อได้ในระดับ IPX4 สามารถใส่ออกกำลังกายหรือใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างมั่นใจ. คุณภาพเสียงโดยรวมถือว่าดีในระดับราคานี้ ให้เสียงที่สมดุล ฟังสบาย. การเชื่อมต่อใช้ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ (ไม่ได้ระบุเวอร์ชั่นชัดเจน แต่รองรับ Low Latency). แบตเตอรี่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป.

จุดเด่น: ดีไซน์มินิมอล、ENC ลดเสียงรบกวนขณะสนทนา、Low Latency เล่นเกมดี、กันน้ำ IPX4.

ฟังก์ชันหลัก:

1. ENC (Environmental Noise Cancellation): ช่วยลดเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อมระหว่างการสนทนา ทำให้คู่สนทนาได้ยินเสียงพูดชัดเจนยิ่งขึ้น.

2. Low Latency Mode: โหมดลดความหน่วงของเสียง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเล่นเกมหรือรับชมวิดีโอ ช่วยให้เสียงและภาพตรงกัน สร้างประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น.

3. มาตรฐานกันน้ำ IPX4: ป้องกันเหงื่อและละอองน้ำ ทำให้สามารถใช้งานระหว่างออกกำลังกายหรือในสภาพอากาศที่มีความชื้นเล็กน้อยได้.

4. ดีไซน์มินิมอลพกพาง่าย: ตัวหูฟังและเคสชาร์จมีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานในที่ต่างๆ.

เหมาะสำหรับ: เกมเมอร์งบน้อย, คนที่ต้องการหูฟังสำหรับคุยโทรศัพท์ที่ชัดเจน, ผู้ที่ชอบดีไซน์เรียบง่าย.

ผู้ผลิต: Vivan Official Website (Indonesia) (อาจต้องหาตัวแทนจำหน่ายในไทย)

บทความแนะนำสินค้า: (สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากร้านค้าตัวแทนจำหน่าย Vivan ในประเทศไทย)

ข่าวสินค้า: (ติดตามข่าวสารจาก Vivan หรือตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศ)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (ค้นหาวิดีโอรีวิว Vivan GT2 บน YouTube)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (ดูได้จากคู่มือผลิตภัณฑ์)

9. Soundcore R50i

ราคา: ประมาณ 700 - 999 บาท (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและรุ่นย่อย R50i หรือ R50i NC)

Soundcore R50i จากค่าย Anker เป็นหูฟังไร้สายที่ให้พลังเสียงเบสหนักแน่นสะใจด้วยเทคโนโลยี BassUp และไดรเวอร์ขนาด 10 มม. สามารถปรับแต่ง EQ ได้ตามใจชอบผ่านแอป Soundcore. เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.3 ให้สัญญาณที่เสถียรและมั่นใจได้. แบตเตอรี่อึดใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน (ระยะเวลาแตกต่างกันในรุ่น R50i และ R50i NC). มีมาตรฐานกันน้ำ IPX5 (สำหรับ R50i) หรือ IP54 (สำหรับ R50i NC) ทำให้เหมาะกับการใส่ออกกำลังกายหรือลุยฝนก็ไม่ต้องกังวล. รุ่น R50i มาพร้อม Game Mode ช่วยลดดีเลย์ของเสียง ส่วนรุ่น R50i NC (หรืออีกชื่อคือ P30i) จะมีฟีเจอร์ Active Noise Cancellation (ANC) ช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ถึง 42dB ให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่. ทั้งสองรุ่นมีไมโครโฟน AI ช่วยให้การสนทนาคมชัด.

จุดเด่น: พลังเสียงเบสหนักแน่น BassUp、ปรับ EQ ผ่านแอปได้、Bluetooth 5.3、กันน้ำ IPX5/IP54、มีรุ่น ANC ให้เลือก、ไมโครโฟน AI คมชัด.

ฟังก์ชันหลัก:

1. เทคโนโลยี BassUp และไดรเวอร์ 10 มม.: ให้เสียงเบสที่หนักแน่นและทรงพลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน หรือต้องการความตึ้บของเสียงเบส.

2. การปรับแต่ง EQ ผ่านแอป Soundcore: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งโปรไฟล์เสียงได้อย่างละเอียดผ่านแอปพลิเคชัน Soundcore เพื่อให้ได้โทนเสียงที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด.

3. Bluetooth 5.3 และ Game Mode (ในรุ่น R50i): ให้การเชื่อมต่อที่เสถียรและประหยัดพลังงาน พร้อมโหมดเกมที่ช่วยลดความหน่วงของเสียง เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้น.

4. Active Noise Cancellation (ANC) (ในรุ่น R50i NC/P30i): ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ ช่วยลดเสียงรบกวนจากภายนอกได้ถึง 42dB ทำให้ผู้ใช้สามารถจดจ่อกับเสียงเพลงหรือการสนทนาได้ดียิ่งขึ้น.

เหมาะสำหรับ: คนรักเสียงเบส, ผู้ที่ชอบปรับแต่งเสียง, เกมเมอร์, คนที่มองหาหูฟังพร้อม ANC ในราคาย่อมเยา (สำหรับรุ่น R50i NC).

ผู้ผลิต: Soundcore (Anker) Official Website

บทความแนะนำสินค้า: (สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ Soundcore หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่าย)

ข่าวสินค้า: (ติดตามข่าวสารจาก Soundcore หรือ Anker Thailand)

รีวิวผลิตภัณฑ์: รีวิว Soundcore R50i จากช่อง YouTube (ตัวอย่าง)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (ดูได้จากคู่มือผลิตภัณฑ์ หรือแอปพลิเคชัน Soundcore)

10. AUKEY EP-M2 Move Air

ราคา: ประมาณ 600 - 800 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น)

AUKEY EP-M2 Move Air เป็นหูฟังไร้สายแบบ Earbuds ที่ออกแบบมาให้มีดีไซน์โปร่งแสง โชว์ความสวยงามของวงจรภายในเล็กน้อย ดูทันสมัยและมีสไตล์. โดดเด่นด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ถึง 13 มม. ให้เสียงที่ทรงพลังและมีมิติ. เชื่อมต่อเสถียรด้วย Bluetooth 5.3 รุ่นใหม่ล่าสุด. แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานรวมกับเคสชาร์จถึง 20 ชั่วโมง. ตัวหูฟังมีน้ำหนักเบา ใส่สบาย สามารถใช้งานได้ทั้งแบบข้างเดียวหรือสองข้าง และควบคุมการทำงานต่างๆ ได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส. แม้จะเป็นแบบ Earbuds แต่ก็ให้เสียงเบสที่ค่อนข้างดี เหมาะกับการฟังเพลงหลากหลายแนว. เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่มองหาหูฟัง Earbuds ดีไซน์สวย เสียงดี ในราคาไม่แรง.

จุดเด่น: ดีไซน์โปร่งแสงสวยงาม、ไดรเวอร์ใหญ่ 13 มม. เสียงทรงพลัง、Bluetooth 5.3、แบตอึด 20 ชั่วโมง、ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส.

ฟังก์ชันหลัก:

1. ดีไซน์โปร่งแสง (Transparent Design): ตัวหูฟังมีส่วนประกอบที่โปร่งแสง เผยให้เห็นรายละเอียดภายในเล็กน้อย เพิ่มความสวยงามและความน่าสนใจ.

2. ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 13 มม.: ให้คุณภาพเสียงที่เต็มอิ่ม ด้วยไดรเวอร์ขนาดใหญ่ ช่วยให้เสียงเบสมีความชัดเจนและเสียงกลางแหลมที่สดใส.

3. การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.3: มอบการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็ว เสถียร และประหยัดพลังงาน รองรับการใช้งานได้อย่างราบรื่น.

4. การควบคุมด้วยระบบสัมผัส: สามารถควบคุมการเล่นเพลง รับสาย/วางสาย หรือเรียกใช้งานผู้ช่วยเสียงได้ง่ายๆ ผ่านการสัมผัสที่ตัวหูฟัง.

เหมาะสำหรับ: ผู้ที่ชื่นชอบหูฟัง Earbuds ดีไซน์สวย, คนที่เน้นคุณภาพเสียงและไดรเวอร์ขนาดใหญ่, ใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน.

ผู้ผลิต: AUKEY Official Website

บทความแนะนำสินค้า: (สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ AUKEY หรือร้านค้าตัวแทนจำหน่าย)

ข่าวสินค้า: (ติดตามข่าวสารจาก AUKEY Global หรือ AUKEY Thailand)

รีวิวผลิตภัณฑ์: (ค้นหาวิดีโอรีวิว AUKEY EP-M2 Move Air บน YouTube)

รีวิวจากผู้ใช้: (สามารถค้นหาจากผู้ใช้งานจริงในเว็บบอร์ด หรือกลุ่มโซเชียลมีเดีย)

บทความสอนใช้งาน: (ดูได้จากคู่มือผลิตภัณฑ์)

วิดีโอรีวิวแนะนำจาก YouTube และ TikTok

มาดูรีวิวแบบเห็นภาพชัดๆ กันบ้างดีกว่า จะได้ตัดสินใจง่ายขึ้น!

5 หูฟัง True Wireless ที่ดีที่สุดในงบ 1,000.- ปี 2023 - Mercular (เผื่อมีรุ่นใกล้เคียงหรือแนวทาง)

รวมหูฟังไร้สายสุดคุ้มย่าน 1,000 บาท ปี 2024 ถูกจัด เด็ดทุกตัว | 425Audio รีวิว

รวมหูฟังราคาถูกและดีในอาตี๋รีวิว!? - TikTok @arteereview

รีวิวหูฟัง TWS SoundPEATS ตัวใหม่พร้อมฟีเจอร์ครบครันในราคาห้าร้อย! - TikTok @freshzofficial (อาจเป็นรุ่นใกล้เคียง SoundPeats Clear)

รีวิวหูฟังไร้สายต้องถูกและดี - #หูฟังบลูทูธ - TikTok @gibsanzab

วิธีเลือกหูฟังบลูทูธราคาไม่เกิน 1,000 บาท ให้โดนใจใช่เลย!

1. สไตล์การใช้งานและประเภทหูฟังสำคัญไฉน?

ก่อนอื่นเลยต้องถามใจตัวเองก่อนว่าส่วนใหญ่เราจะเอาหูฟังไปใช้ทำอะไร? ถ้าเน้นฟังเพลงชิลๆ ดูหนังทั่วไป หูฟังแบบ Earbuds ที่ใส่สบายๆ ไม่อึดอัดหู อาจจะตอบโจทย์ เพราะส่วนใหญ่จะให้เสียงที่โปร่ง ฟังสบาย แต่ถ้าชอบความเป็นส่วนตัว อยากได้ยินรายละเอียดเสียงชัดๆ เบสแน่นๆ หรือจะเอาไปใส่ออกกำลังกาย แบบ In-Ear ที่สอดเข้าไปในรูหูจะกระชับกว่า และช่วยกันเสียงภายนอกได้ดีกว่าด้วย. แต่ถ้าใครขี้รำคาญ ไม่ชอบอะไรมาอุดหูเลย เดี๋ยวนี้ก็มีแบบ Open-Ear ที่เกี่ยวหูไว้เฉยๆ ให้เสียงรอบข้างยังเข้ามาได้อยู่ ปลอดภัยเวลาเดินถนน แต่เสียงอาจจะไม่เต็มอิ่มเท่าสองแบบแรกนะจ๊ะ. ส่วนใครที่คุยโทรศัพท์เป็นหลัก อาจจะมองหาหูฟังแบบ Mono ที่มีข้างเดียวไปเลยก็ได้ เพราะจะเน้นไมโครโฟนที่ชัดเจน และยังได้ยินเสียงรอบข้างอยู่. ดังนั้น เลือกทรงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์เราก่อนเลย จะได้ใช้แล้วแฮปปี้!

2. คุณภาพเสียง...เรื่องนี้ห้ามมองข้าม!

ถึงแม้จะเป็นหูฟังราคาประหยัด แต่เรื่องเสียงก็ยังสำคัญนะ! ลองดูรีวิวต่างๆ ว่าแนวเสียงของรุ่นที่เราสนใจเป็นยังไง ถ้าชอบฟังเพลงสนุกๆ เบสหนักๆ ก็มองหารุ่นที่เค้าว่าเบสเด่น แต่ถ้าชอบเสียงใสๆ โปร่งๆ ฟังสบายๆ ก็เลือกอีกแบบ. ขนาดของไดรเวอร์ก็มีผลต่อเสียงเหมือนกัน ไดรเวอร์ใหญ่ก็มักจะให้เสียงเบสที่ดีกว่า แต่ก็ไม่เสมอไปนะจ๊ะ มันมีปัจจัยอื่นประกอบด้วย. ลองหารีวิวที่เค้าเปิดเทียบเสียงให้ฟัง หรือถ้ามีโอกาสได้ลองฟังของจริงก่อนซื้อจะดีมาก. เดี๋ยวนี้หูฟังราคาไม่เกินพันหลายตัวก็ให้เสียงที่ดีเกินคาด อย่าคิดว่าของถูกจะเสียงไม่ดีเสมอไปเด้อ! ถ้าเน้นเล่นเกมหรือดูหนัง ก็ดูเรื่องความหน่วงของเสียง (Latency) ด้วย รุ่นไหนมี Game Mode หรือ Low Latency Mode ก็จะช่วยให้เสียงกับภาพตรงกันมากขึ้น ไม่เสียอารมณ์.

3. แบตเตอรี่...อึดแค่ไหนถึงจะพอ?

หูฟังไร้สายยังไงก็ต้องพึ่งแบตเตอรี่ ลองเช็คดูว่าตัวหูฟังเองใช้งานได้กี่ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และเคสชาร์จสามารถชาร์จหูฟังซ้ำได้อีกกี่รอบ รวมแล้วใช้งานได้นานแค่ไหน. ถ้าเราเป็นคนใช้งานทั้งวัน หรือชอบลืมชาร์จแบตบ่อยๆ ก็ควรเลือกรุ่นที่แบตอึดๆ หน่อย จะได้ไม่ต้องชาร์จกันบ่อยๆ ให้หงุดหงิดใจ. บางรุ่นมีระบบชาร์จเร็ว ชาร์จแป๊บเดียวก็ใช้ต่อได้อีกหลายชั่วโมง อันนี้ก็สะดวกดีนะ. อย่างน้อยๆ ควรใช้งานได้ต่อเนื่องสัก 3-4 ชั่วโมงก็ถือว่าโอเคแล้วสำหรับหูฟังราคานี้ แต่ถ้าได้มากกว่านั้นก็ถือเป็นกำไรจ้า!

4. การเชื่อมต่อและฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่ต้องรู้!

เดี๋ยวนี้หูฟังส่วนใหญ่จะใช้ Bluetooth 5.0 ขึ้นไปกันแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การเชื่อมต่อเสถียรขึ้น ประหยัดแบตมากขึ้น และมีระยะการเชื่อมต่อที่ไกลขึ้น. ลองดูด้วยว่ารุ่นที่เราสนใจใช้ Bluetooth เวอร์ชั่นอะไร. ฟังก์ชันเสริมอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่น การกันน้ำกันเหงื่อ (ดูจากค่า IP Rating เช่น IPX4, IPX5) ถ้าเราเป็นสายสปอร์ตหรือชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง อันนี้จำเป็นเลย. การควบคุมด้วยระบบสัมผัสที่ตัวหูฟังก็สะดวกดี ทำให้เราไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเปลี่ยนเพลงหรือรับสายบ่อยๆ. บางรุ่นมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน (Noise Cancelling Microphone) ช่วยให้คุยโทรศัพท์ชัดเจนขึ้น แม้จะอยู่ในที่ที่มีเสียงดัง. หรือถ้าใครชอบปรับแต่งเสียงเอง ก็ลองดูว่ามีแอปพลิเคชันให้ปรับ EQ ได้ไหม. ฟังก์ชันเหล่านี้อาจจะไม่ได้มีครบทุกรุ่นในงบนี้ แต่ถ้ามีก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ จ้า!

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q1: หูฟังบลูทูธราคาไม่เกิน 1,000 บาท คุณภาพเสียงจะดีไหม?

A: เดี๋ยวนี้หูฟังราคาไม่เกิน 1,000 บาท หลายรุ่นก็ให้คุณภาพเสียงที่ดีเกินราคามากๆ เลยนะ! อาจจะไม่ได้รายละเอียดเสียงคมกริบ เบสหนักสะใจเท่าหูฟังแพงๆ แต่สำหรับการใช้งานทั่วไป ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกม ถือว่าตอบโจทย์ได้สบายๆ เลยล่ะ สิ่งสำคัญคือต้องดูรีวิวแล้วเลือกรุ่นที่แนวเสียงตรงกับที่เราชอบด้วยนะ

Q2: หูฟัง Earbuds กับ In-Ear ต่างกันยังไง แบบไหนดีกว่ากัน?

A: Earbuds จะเป็นแบบแปะๆ ตรงช่องหู ใส่สบาย ไม่อึดอัด แต่เสียงอาจจะไม่แน่นเท่าและหลุดง่ายกว่าหน่อย. ส่วน In-Ear จะสอดเข้าไปในรูหูเลย ทำให้กระชับกว่า กันเสียงภายนอกได้ดีกว่า เบสแน่นกว่า เหมาะกับการฟังเพลงเน้นๆ หรือใส่ออกกำลังกาย. ดีกว่ากันมั้ย อันนี้แล้วแต่คนชอบและสไตล์การใช้งานเลยจ้า

Q3: ถ้าอยากได้หูฟังไว้ใส่วิ่งออกกำลังกาย ควรเลือกรุ่นที่มีคุณสมบัติอะไรบ้าง?

A: สำคัญสุดๆ คือต้องกันน้ำกันเหงื่อได้ อย่างน้อยๆ ก็ควรมีมาตรฐาน IPX4 ขึ้นไป. แล้วก็ควรเลือกแบบที่ใส่กระชับ ไม่หลุดง่าย อย่าง In-Ear หรือแบบที่มีที่เกี่ยวหูก็จะดีมาก. น้ำหนักเบาก็สำคัญนะ จะได้ไม่รู้สึกรำคาญตอนวิ่งจ้า

Q4: หูฟังบลูทูธเชื่อมต่อยากไหม?

A: ส่วนใหญ่ไม่ยากเลยจ้า แค่เปิดบลูทูธที่มือถือเรา แล้วก็เปิดหูฟัง (บางรุ่นอาจจะต้องกดปุ่ม Pairing ค้างไว้แป๊บนึง) จากนั้นก็เลือกชื่อหูฟังในลิสต์ Bluetooth ของมือถือเราก็เรียบร้อย. บางรุ่นแค่เปิดฝาเคสก็เชื่อมต่อให้อัตโนมัติเลย สะดวกสุดๆ.

Q5: ถ้าหูฟังเสียงออกข้างเดียว หรือเชื่อมต่อไม่ได้ ต้องทำยังไง?

A: เบื้องต้นลองเช็คแบตเตอรี่หูฟังทั้งสองข้างดูก่อนว่ามีไฟพอไหม ลองเอาหูฟังใส่กลับเข้าเคสแล้วเอาออกมาใหม่ หรือลองปิด-เปิดบลูทูธที่มือถือแล้วเชื่อมต่อใหม่. ถ้ายังไม่ได้ ลอง "ลืมอุปกรณ์" (Forget Device) หูฟังตัวนั้นในตั้งค่าบลูทูธของมือถือ แล้วทำการจับคู่ใหม่อีกครั้งดูนะ. ส่วนใหญ่ปัญหามักจะแก้ไขได้ด้วยวิธีง่ายๆ เหล่านี้แหละจ้า