กล้องสำหรับการถ่ายในสภาวะแสงน้อยที่ดีที่สุดในปี 2024

การเลือกใช้งานกล้องสำหรับการถ่ายในสภาพแสงน้อยได้ดีเป็นเรื่องท้าทายมาก แต่กล้องสมัยใหม่ในปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น เราจึงได้เห็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพด้วยการตั้งค่า ISO สูงเพื่อรวบรวมข้อมูลในที่แสงน้อยได้มากขึ้น
โดยทั่วไปแล้วยิ่งกล้องที่มีราคาสูงยิ่งสามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้ดี แต่ก็มีกล้องที่สามารถใช้งานในที่แสงน้อยได้ดีสำหรับผู้ที่มีงบประมาณที่จำกัดเช่นกัน ดังนั้นในรายการที่เราได้ทำการเลือกมานี้ได้รวบรวมตั้งแต่กล้องรุ่นเริ่มต้นที่ราคาไม่แพงไปจนถึงกล้องระดับ high-end เพื่อให้ผู้ใช้ทุกท่านได้เลือกตามความต้องการ
1. Sony a7S III
เซนเซอร์ : 12.1MP BSI CMOS full-frame
ช่วง ISO : 80-102,400 (ขยายได้ถึง 40-409,600)
เลนส์ : Sony E-mount
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวระบบ 5 แกน
ข้อดี
+ มีช่วง ISO ที่มีประสิทธิภาพ
+ วิดีโออยู่ในระดับมืออาชีพ
+ เซนเซอร์ full frame
ข้อเสีย
– เกินมาตรฐานสำหรับนักถ่ายภาพนิ่ง
Sony A7S III เป็นเครื่องมือพิเศษสำหรับมืออาชีพและมุ่งเน้นไปที่ผู้ใช้วิดีโออย่างแน่นอน และมันสามารถเปลี่ยนกลางคืนให้กลายเป็นกลางวันได้ด้วยค่า ISO สูงสุดที่ 409,600 ช่วงไดนามิกเรนจ์ 14 stops ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเก็บรายละเอียดในระดับที่น่าทึ่งแม้ในความมืด
มันมีความละเอียดอยู่ที่ 12MP ซึ่งอาจจะฟังดูต่ำหากนึกถึงการใช้งานเฉพาะในภาพนิ่ง แต่สำหรับผู้ใช้วิดีโอที่ไม่ได้ใช้พิกเซลพิเศษมากนักฉะนั้นมันสมเหตุสมผลแล้ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด เซนเซอร์ที่มีความหนาแน่นน้อยกว่าทำให้ได้ภาพที่สะอาดขึ้นที่ ISO สูง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีสำหรับการถ่ายในที่แสงน้อย
2. Canon EOS R6
เซนเซอร์ : 20MP CMOS full-frame
ช่วง ISO : 80-102,400 (ขยายได้ถึง 204,800)
เลนส์ : Canon RF-mount
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวระบบ 5 แกน
ข้อดี
+ โฟกัสที่ -6.5EV
+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 8 stop
ข้อเสีย
– ราคาค่อนข้างแพงสำหรับ 20MP
– ช่วงไดนามิกไม่คงที่
กล้อง Canon EOS R6 ได้พัฒนาในหลายด้านสำหรับการเป็นหนึ่งในกล้องที่มีความสามารถในการถ่ายภาพในสภาวะที่แสงน้อย เช่น โฟกัสอัตโนมัติ ด้วยระบบ Dual Pixel CMOS AF ซึ่งเป็นหนึ่งในระบบที่ล้ำหน้าที่สุด และระบบโฟกัสอัตโนมัติของ EOS R6 สามารถทำงานได้ในสภาวะที่มืดถึง -6.5EV
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าประทับคือ ระบบป้องกันภาพสั่นไหว ซึ่งมีถึงในตัว 5 แกน และเมื่อใช้ร่วมกับเลนส์ RF ที่เสถียรจะสามารถชดเชยแสงได้ถึง 8 สต็อป สิ่งนี้หมายความว่าในแง่จริงก็คือ คุณสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงโดยไม่จำเป็นต้องยึด R6 เข้ากับขาตั้งกล้อง ซึ่งเป็นการเพิ่มประโยชน์ใช้สอยในที่แสงน้อย
3. Canon PowerShot G1 X Mark III
เซนเซอร์ : 24.2MP APS-C CMOS
ช่วง ISO : 100-25,600
เลนส์ : 24-72 มม. (เทียบเท่า 35 มม.) f/2.8-5.6
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 4 stop
ข้อดี
+ เซนเซอร์ขนาดใหญ่และซับซ้อน
+ สามารถชาร์จผ่าน USB
+ ตัวกล้องมีระบบป้องกันฝุ่นละอองและน้ำ
ข้อเสีย
– รูรับแสงกว้างสุด f/2.8
กล้อง Canon PowerShot G1 X Mark III เป็นกล้องขนาดเล็กที่อัดแน่นด้วยเซนเซอร์ APS-C ในตัวซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากกล้อง DSLR ด้วยรูปแบบปุ่มควบคุมที่เหมาะสมและน้ำหนักที่พอเหมาะในมือ และการใช้งานกลางแจ้งนั้นก็ง่ายดายในทุกสภาวะเนื่องจากตัวเครื่องที่มีระบบป้องกันฝุ่นละอองและน้ำทำให้ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลินในทุกที่ที่คุณต้องการ ความไวแสง ISO ของ G1 X Mark III ไม่สูงมากนัก แต่ก็สูงถึง 25,600 อย่างน่าเชื่อถือ
4. Olympus OM-D E-M10 Mark IV
เซนเซอร์ : 20.3MP Four Thirds Live MOS
ช่วง ISO : 80-25,600
เลนส์ : Micro Four Thirds lens mount
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบ 5 แกน
ข้อดี
+ ช่วงเลนส์ MFT ขนาดใหญ่
+ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ยอดเยี่ยม
+ การควบคุมที่จัดวางอย่างดี
ข้อเสีย
– เซนเซอร์มีขนาดค่อนข้างเล็ก
หากคุณมองหากล้องที่สามารถถ่ายในสภาวะแสงน้อยได้ดีและอยู่ในงบประมาณ เราขอแนะนำกล้อง Olympus OM-D E-M10 Mark IV มันเต็มไปด้วยคุณสมบัติอันชาญฉลาดที่มีประโยชน์ในที่แสงน้อย คุณสมบัติอย่างหนึ่งคือระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ optical มันคือการใช้ไจโรสโคปเพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวของกล้องขนาดเล็กและชดเชยด้วยการขยับเลนส์, เซนเซอร์ หรือทั้งสองอย่างในทิศทางตรงกันข้าม
ซึ่งหมายความว่าสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ช้าลงในขณะที่ถือกล้องด้วยมือ ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลงหมายถึงแสงที่มากขึ้นสำหรับเซนเซอร์ ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพการทำงานในที่แสงน้อยที่ดีขึ้นด้วย และอีกอย่างข้อดีของมัน คือ มันมีขนาดที่เหมาะกับการพกพาและเหมาะสำหรับการเดินทาง
5. Nikon Z6 II
เซนเซอร์ : 24.5MP CMOS BSI full-frame
ช่วง ISO : 100-51,200 (ขยายได้ถึง 50-204,800)
เลนส์ : Nikon Z lens mount
ระบบป้องกันภาพสั่นไหว : ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบเลื่อนเซนเซอร์ 5 แกน
ข้อดี
+ โฟกัสอัตโนมัติอเนกประสงค์ที่มีความสามารถ
+ การวัดแสงทำงานในที่มืด
+ เลนส์ mount Z ที่ซับซ้อน
ข้อเสีย
– อายุการใช้งานแบตเตอรี่น่าจะดีกว่านี้
กล้อง Nikon Z6 II มีคุณสมบัติที่ดีมากมายที่ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพในสภาพแสงที่ท้าทาย ด้วยความละเอียด 24.5MP นั้นสมดุลดีสำหรับแสงน้อย และความละเอียดเพียงพอสำหรับการพิมพ์ภาพที่ดี และมีระบบวัดแสงที่มีความซับซ้อนสูงซึ่งสามารถวิเคราะห์ฉากในสภาวะที่ต่ำถึง -6EV และยังมีระบบกันสั่นในตัวที่ยอดเยี่ยม โดยเป็นการเลื่อนเซนเซอร์เพื่อชดเชยการเคลื่อนไหวของกล้องที่ไม่ต้องการ เปิดใช้งานความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าลง
แนะนำสำหรับคุณ
10 คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พิมพ์สนุก ทนทาน ดีไซน์สวย
10 ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จิ๋วแต่แจ๋ว เสียงกระหึ่ม
10 คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ไร้สายคล่องตัว เสียงนุ่ม พกง่าย
10 ตัวกระจายสัญญาณ WiFi ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สัญญาณแรงครอบคลุม พกพาสะดวก
10 External Hard Disk ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เก็บข้อมูลจุใจ โอนถ่ายรวดเร็ว
10 แว่น VR ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ประสบการณ์สมจริง ภาพสวยทะลุจอ