รีวิวกล้อง Nikon Z30 : กล้อง mirrorless ขนาดกะทัดรัดที่เป็นความฝันสำหรับชาว vloggers

ในฐานะที่เป็นผู้สร้าง content คุณอาจจะต้องเลือกระหว่างการใช้งานกล้องเฉพาะทางหรือใช้สมาร์ทโฟน ในขณะที่สมาร์ทโฟนอาจถูกเลือกมากกว่าเพราะมันอยู่กับคุณตลอดเวลา หากคุณต้องการวิดีโอและรูปภาพที่ดูสมบูรณ์แบบบน Instagram เสมอการเลือกกล้องเฉพาะทางก็เป็นตัวเลือกที่น่าเชื่อถือมากกว่า กล้อง Nikon Z30 เป็นกล้อง mirrorless ตัวล่าสุดของ Nikon ด้วยขนาดตัวกล้องที่มีความกะทัดรัด และหน้าจอสัมผัสแบบ angle ซึ่งเป็นทางออกที่ดีสำหรับความรู้สึกของ YouTube รุ่นใหม่

กล้องนี้มีจำหน่ายทั้งแบบตัวกล้องอย่างเดียวหรือคุณจะซื้อคู่กับเลนส์ก็ได้เช่นกัน ตัวที่เราใช้งานนี้มาพร้อมกับเลนส์ kit zoom มาตรฐาน 16-50 มม. f/3.5-6.3 VR ที่น่าประทับใจ ซึ่งครอบคลุมถึงมุมกว้างจนถึงภาพบุคคล ดังนั้นจึงคุ้มค่าที่จะลองหาแพ็คเกจที่มีเลนส์นี้รวมอยู่ด้วย เพราะผู้เริ่มต้นหรือผู้ใช้ทั่วไปไม่จำเป็นต้องซื้อเลนส์เพิ่มเติม และตัวกล้องที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบาทำให้เป็นกล้องที่สะดวกสำหรับการพกพา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับสาย vlogging

กล้องนี้มีเซนเซอร์ความละเอียดภาพอยู่ที่ 20.8MP พร้อมกับความสามารถบันทึกวิดีโอ 4K และความเร็วการถ่ายภาพต่อเนื่องที่ 11fps ซึ่งมันให้ทั้งภาพถ่ายและวิดีโอที่มีประสิทธิภาพอย่างแน่นอน หนึ่งสิ่งของกล้องนี้ยอดเยี่ยมคือ มันสามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ Z-mount ทุกรุ่นของ Nikon และเราได้ทำการทดลองกล้องทั้งในโหมดของการถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ

โครงสร้างและการจัดการ

กล้อง Nikon Z30 เป็นกล้องที่มากความสามารถที่มาในรูปแบบจิ๋วและแพ็คเกจกะทัดรัด โดยน้ำหนักของมันอยู่ที่ 350ก. แต่ถึงแม้ว่ามันจะน้ำหนักที่เบามาก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันบอบบางขนาดนั้น เนื่องจากตัวกล้องที่ทำจาก magnesium-alloy ทำให้รู้สึกแข็งแกร่งและมีราคาแพงกว่าที่เป็นอยู่มากเช่นกัน และยังมีด้ามจับที่หนา ทำให้กล้องนี้ใช้งานง่ายมากเมื่อถ่ายภาพด้วยมือเดียว ไม่ว่าจะอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังกล้อง

ถึงแม้จะไม่มีช่องมองภาพแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก เพราะมันมีหน้าจอสัมผัส LCD แบบ vari-angle ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,040,000dot ช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่โหมดเซลฟี่โดยพลิกไปข้างหน้าจนสุดหรือสั่งงานแผงควบคุมเมื่อหันไปทางอื่น

รูปแบบการจัดวางตำแหน่งปุ่มก็ได้รับการคิดมาอย่างดี โดยปุ่มบันทึกมีขนาดใหญ่และโดดเด่นกว่า Nikon รุ่นอื่นๆ และอีกหนึ่งสิ่งที่ชาว vlogger จะชอบเป็นพิเศษคือ เมื่อคุณบันทึกวิดีโอจะเห็นขอบสีแดงและไฟแสดงสถานะบนหน้าจอ คุณจึงรู้ว่าได้ฟุตเทจที่คุณต้องการแล้ว สวิตช์เปิด/ปิดวิดีโอสลับภาพนิ่งยังแสดงผลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ดังนั้นการสลับระหว่างสองโหมดจึงทำได้อย่างง่ายดาย และปุ่ม DISP จะเปิดใช้งานเมนูสำหรับแต่ละการตั้งค่า

คุณสมบัติ

กล้อง Nikon Z30 มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับการบันทึกวิดีโอ ด้วยการให้ใช้งานวิดีโอ 4K โดยถ่ายจากเซนเซอร์เต็มตัวซึ่งหมายความว่าไม่มีการครอบตัด นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 120 นาที แม้ว่าจะขึ้นอยู่กับการ์ดเก็บข้อมูลของคุณก็ตาม

นอกจากนี้ยังได้ประโยชน์จากการโฟกัสอัตโนมัติอย่างต่อเนื่องและการตรวจจับใบหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับการถ่าย vlogger เนื่องจากคุณสามารถนำเสนอต่อกล้องในขณะที่เคลื่อนที่ไปรอบๆ และยังคงอยู่ในโฟกัสที่สมบูรณ์แบบ

แม้ว่าการไม่มีช่องมองภาพจะเป็นข้อเสีย แต่หน้าจอแบบปรับหมุนได้ขนาด 3 นิ้วก็ใช้งานได้อย่างเพลิดเพลิน หากคุณหันไปทางด้านหน้ากล้องจะพลิกเข้าสู่โหมดเซลฟี่โดยอัตโนมัติ ดังนั้นคุณจะโฟกัสและติดตามใบหน้าและการเคลื่อนไหวของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ประสิทธิภาพของภาพถ่าย

ภาพถ่ายที่ได้จากกล้อง Nikon Z30 มีประสิทธิภาพที่น่าประทับใจอย่างมากด้วยภาพที่สว่างสดใสและแสดงรายละเอียดที่น่าทึ่ง แม้จะใช้ชุดเลนส์ VR พื้นฐาน 16-50 มม. f/3.5-6.3 แต่ก็ยังได้ภาพที่น่าทึ่ง

แต่เมื่อพูดถึงการถ่ายภาพต่อเนื่อง ถึงแม้มันจะอยู่ที่ 11fps แต่ก็พบว่าคุณต้องถ่ายหลายภาพอยู่เพื่อให้ได้ภาพที่ต้องการ แต่ก็ไม่ได้เป็นสิ่งที่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะระบบโฟกัสอัตโนมัตินั้นโดยรวมมีความรวดเร็วและทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้แล้วกล้องรุ่นนี้ยังทำทำงานได้ดีในที่มืด แม้ว่าคุณจะไม่ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ แต่กล้องก็จะตรวจจับระดับแสงและเปลี่ยนเป็นโหมดโฟกัสอัตโนมัติในสภาวะแสงน้อยทันที แต่โฟกัสอัตโนมัติในสภาพแสงน้อยจะใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย

ประสิทธิภาพวิดีโอ

อย่างที่เราได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่านี้คือกล้องที่ถูกสร้างมาเพื่อถ่ายวิดีโอ ทำให้คุณจะได้รับวิดีโอที่มีสีสันและรายละเอียดที่สดใสเช่นเดียวกันกับภาพนิ่ง หน้าจอแบบ vari-angle ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับ vlogger ที่ต้องการถ่ายภาพแบบตรงไปที่กล้อง แม้ว่ากล้องนี้จะไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหว แต่มีระบบลดการสั่นไหวแบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังนั้นคุณอาจพบว่าขอบสั่นเล็กน้อยเมื่อถ่ายทำและเดินไปมา ซึ่งปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายๆ โดยใช้ขาตั้งกล้องหรือ gimble แล้วปิดตัวเลือก VR

อีกหนึ่งสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากคือ คุณสามารถตั้งค่าโปรไฟล์สีของภาพถ่ายและวิดีโอได้ ซึ่งโปรไฟล์ของมันสามารถแยกออกจากกันได้ ดังนั้นหากคุณชอบสไตล์ที่แตกต่างสำหรับวิดีโอของคุณ ก็เพียงแตะเพื่อเลือกได้อย่างง่ายดาย และไมค์ในตัวยังทำงานได้ดี มีความไวสูง แต่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม 

แบตเตอรี่

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของกล้องนี้ค่อนข้างเหมาะสม คุณสามารถถ่ายที่ประมาณ 400 ภาพ หรือวิดีโอที่ 80 นาที / การชาร์จ 1 ครั้ง และมันใช้งานแบตเตอรี่ EN-EL25 lithium-ion แบบชาร์จได้ ซึ่งหมายถึงคุณสามารถชาร์จผ่าน USB-C ในกล้องได้แต่ไม่มีที่ชาร์จเฉพาะแยกต่างหาก แลกนอกจากนี้คุณยังสามารถใช้กล้องนี้ในขณะชาร์จ รวมถึงเมื่อสตรีมมิ่งแบบสด ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับ vlogger ที่ชอบถ่ายทอดสดและมีคุณภาพดีที่สุด