[พรีวิว] Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 อัปเกรดขึ้นด้านเสียง (และมีอีก 2 รุ่น}

เซนไฮเซอร์ ได้จัดงานเปิดตัวหูฟังใหม่ล่าสุดรอบนี้ไม่ได้มาเพียงแค่ 1 รุ่นเท่านั้น อย่างเช่น MOMENTUM True Wireless 4 รอบนี้เรามาเจาะลึกกันว่าหูฟังใหม่นี้จะได้รูปร่างหน้าตาดีไหม และคุณสมบัติดีแค่ไหน มาดูกันเลย
Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงชัดเจนคือการออกแบบตัวหูฟังใหม่ให้สามารถสวมใส่ได้ง่ายและมีให้เลือก 3 ตัวทาง Sennheriser เผยว่ามีทั้งหมด 3 ด้าน
การออกแบบ
สำหรับรูปร่างต่างๆ ของ Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 เหมือนกับ รุ่น Sennheiser MOMENTUM True Wireless 3 ทุกประการครับ ดังนั้นคุณสามารถกดดูรีวิวรุ่นที่แล้วได้ที่นี่
แต่จากที่เห็นพบว่าตัวหูฟังออกแบบให้นุ่มนวลมากขึ้น และใส่ได้ง่ายกว่าเดิม เพราะมีการยื่นไปที่ในรูหูมากขึ้น
คุณภาพเสียง
ด้วย Driver มีขนาด 7 มิลลิเมตรและยังสามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นทั้งย่านเบส, แหลม และกลาง ส่วนไมโครโฟนของหูฟังรุ่นนี้มีทั้งหมด 6 ตัวและสามารถลดเสียงรบกวนได้ด้วย
เทคโนโลยีมาแบบแน่นๆ
เพราะรอบนี้ Sennheiser MOMENTUM True Wireless 4 อันมาเต็มที่ตั้งแต่
-
Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ 4 ที่สามารถต่อเชื่อมกับ Lessless โดยรองรับถึง 44.1kHz / 16-bit
-
ชิปเซ็ตใหม่ Qualcomm® S5 Sound Gen 2 เพิ่มความเสถียรให้ดีขึ้นและยังสามารถเข้า Codec ได้หมด aptX Lossless และ aptX Adaptive Audio พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth LE Audio, LC3 และ AURACAST หลังการอัปเดตเฟิร์มแวร์
-
AURACAST เป็นระบบที่สามารถตั้งค่าเพื่อใช้งานตั้งแต่ให้มีเสียงจำเป็นเข้ามาเช่นการประกาศในสนามบิน เข้ามาได้
-
นำเอาเทคโนโลยี Qualcomm® RF Front End (RFFE) มาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีทรานสดิวเซอร์ TrueResponse อันโด่งดังของเซนไฮเซอร์ เสาอากาศที่ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยให้สามารถรับคลื่นวิทยุ (RF) ได้ดีขึ้น มีค่าอัตราส่วนระหว่างสัญญาณกับสัญญาณรบกวนที่ดีขึ้น
-
ไมโครโฟน 6 ตัว ให้การพูดคุยสายสนทนาทำได้ดี พร้อมระบบ Adaptive ANC ปรับตามสถานการณ์ เข้าโหมดให้เสียงภายนอกง่ายแค่แตะครั้งเดียว
-
เห็นใหม่ๆ แบบนี้ฟีเจอร์ที่ให้คุณเลือกใช้ทั้งการปรับแต่เสียงเอง Sound Personalization, Sound Zone ปรับเสียงตามสถานการณ์ และ Sound Check (ตรวจสอบการสวมใส่ว่าถูกต้องหรือไม่) ก็ได้ถูกนำมาใส่ในหูฟังเจเนอเรชันใหม่นี้ผ่านแอปพลิเคชัน Smart Control (ใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ iOS และ Android)
-
ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ยาวนาน 5 ชั่วโมง แต่รวมกับกล่องสามารถใช้งานได้ 30 ชั่วโมง และมี Quick Charge วางเพียง 8 นาที ใช้ได้ 1 ชั่วโมง
ภาพรวมหลังจากทดลองสวมใส่สั้นๆ
แม้ว่าดีไซน์จะทรงเดิมแต่สังเกตว่าจุก In Ear จะมีความบางลงทำให้ใส่แล้วไม่เจ็บหูเท่ากับรุ่นเดิม นอกจากนี้ยังมีการตัดเสียงที่ดี แต่ว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้ทดลองใช้งานด้านไมโครโฟน ทำให้ไม่สามารถบอกได้ว่าไมโครโฟน 6 ตัวนั้นเสียงออกมาดีแค่ไหน ไว้ได้รับมาทดลองใช้จริง จะมาเล่าให้ฟังกันต่อไป
นอกจากนี้ไม่ได้มาเพียงรุ่นเดียวกัน โดยมีรุ่นใหม่ตั้งแต่
Sennheiser MOMENTUM Sport
รุ่นนี้มีการออกแบบใหม่ที่เน้นสำหรับคนที่ออกกำลังกาย โดยรอบนี้หูฟังใหม่จะมาพร้อมกับตรวจสอบอัตราการเต้นชองหัวใจ และการวัดอุณหภูมิของร่างกาย
ด้วยเทคโนโลยี Polar สามารถวัด การวิเคราะห์ข้อมูลชั้นยอดของ Polar ผ่าน Polar Flow แอปพลิเคชันสำหรับเทรนนิ่งและออกกำลังกาย โดยความร่วมมือกับ Polar ในครั้งนี้ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงฟีเจอร์การออกกำลังกายต่าง ๆ ได้ เช่น Expert-tier performance tracking, Training analytics, Smart coaching และ voice guidance
เหตุที่มีการใส่เซนเซอร์จุดนี้เพราะมีความมั่นคงกว่าส่วนอื่น และยังทำให้สวมใส่สบาย ขนาดกระทัดรัดและไม่หลุดง่ายเวลาสวมใส่
พร้อมกับยังต่อเขื่อมกับ Application ได้แก่ Apple Watch (Health), Garmin Watch (Connect), Strava สำหรับในการบอกชีพจรได้แม่นยำ
All-new ACCENTUM Plus
หูฟังครอบหู ACCENTUM Plus มาพร้อมกับ Driver ขนาดใหญาจากการทดลองเสียงนั้นพบว่ามีคุณภาพเสียงที่ดีและยังมีระบบตัดเสียงที่ดีสวมควร
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวน Hybrid Adaptive Noise Cancellation และยังรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.2 และรวมถึงช่องเสียบหูฟัง นอกจากนี้ยังมีการเข้า Codec อย่าง aptX™ Adaptive เพื่อเสียงที่ดีที่สุดในทุก ๆ ที่ที่คุณใช้งานหูฟัง อีกทั้ง ไดนามิกทรานสดิวเซอร์ขนาด 37 มม. ที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเซนไฮเซอร์ยังรวมเอาโหมด Sound Personalization
ราคาอย่างเป็นทางการ
MOMENTUM True Wireless 4 จัดจำหน่ายในราคา 11,890 บาท มาพร้อมกับ 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Black Copper, Black Graphite และ White Silver
MOMENTUM Sport จัดจำหน่ายในราคา 11,890 บาท มาพร้อมกับ 3 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ Polar Black, Burned Olive, and Metallic Graphite
ACCENTUM Plus จัดจำหน่ายในราคา 8,990 บาท มีสองสีให้เลือก ได้แก่ Black และ White
โดยผลิตภัณฑ์ทั้งสามรุ่นนี้จะวางขายที่ Munkong Online, Com7, King Power, Betrend, 425degree, และ Mercular ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2024 เป็นต้นไป
แนะนำสำหรับคุณ
10 คีย์บอร์ด ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พิมพ์สนุก ทนทาน ดีไซน์สวย
10 ลำโพงบลูทูธขนาดเล็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 จิ๋วแต่แจ๋ว เสียงกระหึ่ม
10 คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ไร้สายคล่องตัว เสียงนุ่ม พกง่าย
10 ตัวกระจายสัญญาณ WiFi ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 สัญญาณแรงครอบคลุม พกพาสะดวก
10 External Hard Disk ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 เก็บข้อมูลจุใจ โอนถ่ายรวดเร็ว
10 แว่น VR ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 ประสบการณ์สมจริง ภาพสวยทะลุจอ